ร้านศิวิไลพระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง amulet By ดอย ศิวิไล

ร้านศิวิไลพระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง amulet By ดอย ศิวิไล ยินดีต้อนรับ เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกท่าน ยินดีให้บริการด้วยพระแท้ สวย ดูง่าย สบายตา ตามหลักสากลนิยม

เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ออกวัดแจ้งนอกปี 2512สุดยอดเหรียญประสบการณ์ยอดนิยมของหลววพ่อคูณ สภาพแท้ดูง่ายพร้อมบัต...
04/09/2023

เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ออกวัดแจ้งนอกปี 2512

สุดยอดเหรียญประสบการณ์ยอดนิยมของหลววพ่อคูณ

สภาพแท้ดูง่ายพร้อมบัตรรับรองครับ

กุมารทอง  หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รุ่น3 (รุ่นพิเศษ) ปี 2520”… #เนื้อนวะกะไหล่ทองคำ 1 ใน 399...
04/09/2023

กุมารทอง หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รุ่น3 (รุ่นพิเศษ) ปี 2520”…

#เนื้อนวะกะไหล่ทองคำ 1 ใน 399 ตน

สวยเดิมๆน่าบูชามากครับ

ครูบาเจ้าดวงดี วัดท่าจำปี ศิษย์เอกครูบาเจ้าศรีวิไชย ตนบุญแห่งล้านนาไทย
ท่านเป็นผู้สำเร็จวิชาการสร้างกุมารทอง ซึ่งเป็นต้นแบบกุมารทองล้านนา ไทยจัดสร้าง มานานกว่า 40 ปี
กุมารทองเทพเป็นกุมารที่เกิดจากการตั้งธาตุ หนุนธาตุ และบรรจุมวลสารที่เป็นของมงคลล้วนๆ ไม่มีผงผีเจือปน อาจารย์ผู้ทำต้องมีจิตที่แข็งแกร่ง ต้องประสิทธิ์ประสาทอาคมให้ตัวกุมารทองมีพลังมากที่สุด ในนิมิตกุมารทองต้องดิ้นได้ นั่งบนกองเงินกองทอง เป็นต้น สำหรับกุมารประเภทนี้ ไม่มีอันตรายใดๆเพราะเป็นวิญาณสมมติขึ้นมา
กุมารสายเทพเป็นฝ่ายขาว
ท่านครูบาดวงดี ท่านได้อัญเชิญจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของเทพจากสวรรค์ ชั้น จาตุมหาราชิกา ซึ่งเป็นภพภูมิใกล้มนุษย์ที่สุด
เข้าประทับสถิต ในหุ่นกุมาร ฉะนั้นจึงมีแต่ให้ "คุณ" ไม่มีโทษแต่ประการใดทั้งสิ้น
อาจารย์ที่ทำกุมารทองประเภทนี้ได้เก่งที่สุดคือ อาจารย์ฝ่ายพระเกจิที่มีพรรษามากๆ หรืออาจารย์ที่เป็นหมออาคมสายพุทธคุณครับ
อาจเซ่นด้วยขนม น้ำหวานตามวาระโอกาส
คาถาบูชา ลูกกุมารเทพฤทธิ์
นะโม ๓ จบ
จิเจรุนิ จิตตัง เจตตะ สิกกัง รูปัง กุมาโรวา นิมิตตัง กุมารทอง
อาคัจฉาหิ จิตติ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
คาถาเรียกกุมาร
นะโม ๓ จบ
#อีก1ในตำนานของกุมารทองของแผ่นดินล้านนา ตัวจริงเสียงจริงเล็กน่าใช้ครับ

ขออนุญาตเปิดครับเหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์เณร วิเศษสิงห์คำ วัดป่าสัก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ปี 2520 เนื้อเงิน สวยๆแชมป์ อย...
04/09/2023

ขออนุญาตเปิดครับ

เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์เณร วิเศษสิงห์คำ วัดป่าสัก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ปี 2520 เนื้อเงิน สวยๆแชมป์ อยู่ในซองเดิมๆ

ปัจจุบันหาได้ยากยิ่ง พระอาจารย์ท่านขมังเวทย์ วัตถุมงคลของท่านต่างได้รับการยอมรับจากลูกศิษย์ลูกหาว่าเข้มแข็งสุดสุด และเมตตามหานิยม กุมาร ของท่านสุดแสนวิเศษ เป็นกุมารอันดับหนึ่งของล้านนา วัวธูนของท่านพระอาจารย์เณร ท่านปลุกเสกจนสามารถวิ่งรอบป่าช้าได้ ตะกรุดของท่านยังอยู่ยงคงกระพัน ทั้งหมดทั้งมวลเป็นสมบัติของล้านนา

สวยเดิมแชมป์ อยู่ในซองเดิมๆน่าบูชามากครับ

แพคคู่ยามเย็นครับ
28/07/2023

แพคคู่ยามเย็นครับ

เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเปิดโลก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี 2532 เนื้อทองแดง..เหรียญเปิดโลก คณะศิษย์อยุธยาเป็นผู้จัดสร้าง คือ คณะ...
24/07/2023

เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเปิดโลก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี 2532 เนื้อทองแดง..เหรียญเปิดโลก คณะศิษย์อยุธยาเป็นผู้จัดสร้าง คือ คณะของคุณวรวิทย์ ด่านชัยวิจิตร แล้วนำไปให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก อธิษฐานจิตปลุกเสก เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2532 นับเป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายก็ว่าได้ เพราะหลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือน หลวงปู่ดู่ก็ละสังขาร ในวันที่ 17 มกราคม 2533
ซึ่งเหรียญรุ่นเปิดโลก ก่อนหน้าจะมาให้หลวงปู่ดู่ปลุกเสก ได้ทำพิธีปลุกเสกมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง ในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2532 ที่วัดพุทไธสวรรย์ ในวาระครบ 5 รอบ ของหลวงพ่อหวล ภูริทัตโต มีอาจารย์ดังๆ ร่วมปลุกเสกหลายรูป
ครั้นนำมาให้หลวงปู่ดู่ปลุกเสกอีก ครั้งที่วัดสะแก ในวันน้้นมีวัตถุมงคลจากที่ต่างๆ นำเข้าไปร่วมในพิธีมากมาย มีการโยงสายสิญน์ไปยังตัวรถก็มี คาดว่าวันใดที่หลวงปู่ดู่ดังระเบิด วันนั้นจะมีพระเครื่องแปลกตาออกมาเป็นแถว ซึ่งทุกวันนี้ก็มีอยู่หลายรายการ ว่าเข้าร่วมพิธี เปิดโลก เหมือนกัน
สำหรับวัตถุงมงคลที่คุณวรวิทย์ฯ จัดสร้าง ในวันนั้นมีดังนี้
1. เหรียญเปิดโลกเนื้อทองคำ สร้าง 240 เหรียญ
2. เนื้อเงินสร้าง 1,036 เหรียญ
3. เนื้อตะกั่วผสมพวง 1,000 เหรียญ
4. เนื้อทองแดง 10,500 เหรียญ
5. เนื้อผง 5,000 องค์
(ในจำนวนนี้มีฝังพระธาตุเอาไว้ด้วยจำนวน 360 องค์)
6. โปสเตอร์รูปหลวงปู่ดู่ 10,000 แผ่น
7. ลูกแก้วสารพัดนึก (มีทั้งแก้วและผง) 5,000 ลูก
ซึ่งการอธิษฐานจิตปลุกเสกในครั้งนี้ หลวงปู่ดู่ ได้เชิญหลวงปู่ทวด มาร่วมปลุกเสกเช่นทุกครั้ง หลวงปู่ดู่บอกกับศิษย์ว่า รุ่นนี้ ท่านเปิดให้ถึง 3 โลก ได้แก่ พรหมโลก เทวโลก และมนุษยโลก หรือชื่อเรียกอีกย่างว่า รุ่นเปิดสามโลก...

24/07/2023
 #มนต์เสน่ห์ล้านนาครับของเก่าจากเมืองลี้ครับ
23/07/2023

#มนต์เสน่ห์ล้านนาครับ

ของเก่าจากเมืองลี้ครับ

ปรอทกินทอง หลวงพ่อศรีอ่อง วัดบรรพตสถิต จ.ลำปาง       ขนาด 1.5 ซม. ปรอทกินทองครูบาศรีอ่อง อันดับหนึ่งเครื่องรางแปรธาตุล้า...
23/07/2023

ปรอทกินทอง หลวงพ่อศรีอ่อง วัดบรรพตสถิต จ.ลำปาง

ขนาด 1.5 ซม.

ปรอทกินทองครูบาศรีอ่อง อันดับหนึ่งเครื่องรางแปรธาตุล้านนาไทย

ท่านเป็นชาวพม่า ท่านพำนักอยู่วัด บรรพตสถิตย์ ต.พระบาท จ.ลำปาง ...ท่านจะนำเอาปรอทไปแช่ในนพิษหลากชนิดแล้วเสกให้ปรอทฆ่าพิษตามตำรา จากนั้นนำปรอทที่ได้มาทำพิธีทางไสยเวทย์โบราณ โดยท่านใช้ทองคำล่อให้ปรอทกินทอง(ทองคำแท้) อิ่มตัว หากเป็นเงินบริสุทธิ์ก็จะออกมาเป็นปรอทกินเงิน จากนั้นนำไปเทในกองทราย แล้ว แล้วได้ในกองทราย แล้วจึงจะได้ปรอท กินเงิน-กินทอง

พุทธคุณ...
1.ช่วยขับพิษในร่างกายได้
2.กันสิ่งอัปมงคล
3.เสริมธาตุในร่างกาย

อนุภาพ :
1.แคล้วคลาด
2.กันภูตผีปีศาจร้าย
3.ป้องกันยาพิษเข้าต่างๆเข้าร่างกาย
4.เสริมดวง ดวงขึ้นจะสุกใส ดวงตกจะหมองคล้ำ
5.รักษาและปรับสมดุลธาตุในร่างกาย
"คาถาบูชา จิเจรุนิ กัณหะเนหะ"และ มั่น ท่องนโม 3 จบ. และว่าด้วย สัมมาสัสพุทโธ 9จบ. และอธิฐานขอให้โรคทุเลาลง

การสร้างเตามีอยู่ 2 ยุคสมัย ด้วยกัน ยุคแรกๆหลวงพ่อจะไม่ตัดแต่งและขัดให้สวยงาม ยุคหลัง ตัดแต่งและขัดสวยงาม คนชอบใจกันเพราะเกิดความสวยงามน่าสวมใส่ จะยุคสมัยๆไหน ปรอทสำเร็จท่านไม่เป็นสองรองจากใคร เพราะว่าเกิดปาฎิหารหลายอย่าง ที่มองเห็นเด่นชัดมากที่สุดก็ คือ ทุกชิ้นงาน จะมีปรอทและยาพิษผุดออกมาด้านนอก ยาพิษมีสีคล้ำดำน้ำตาล ส่วนปรอทจะมีสีขาวเป็นลักษณไขออกมาชิ้นงาน .

ขอขอบคุณ : ข้อมูลท้องถิ่น พื้นบ้านชาวไทยใหญ่ และชาวล้านนา

พระบูชารุ่นแรกครูบาธรรมชัย วัดประตูป่า ลำพูน เนื้อปูนอัตโนประวัติท่านชื่ออิ่นคำ สมัยนั้นยังไม่มีนามสกุล บางตำราบอกนามสกุ...
23/07/2023

พระบูชารุ่นแรกครูบาธรรมชัย วัดประตูป่า ลำพูน เนื้อปูน

อัตโนประวัติ
ท่านชื่ออิ่นคำ สมัยนั้นยังไม่มีนามสกุล บางตำราบอกนามสกุล วงค์ษา อาจใช้ของญาติหลังจากทางการเริ่มให้มีนามสกุล พ.ศ 2449 เป็นต้นไป ท่านเกิดขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่เหนือ (เดือน12) ตรงกับวันศุกร์ที่ 5 พ.ย 2418 พ่อชื่อโต่ง แม่ชื่อบัวคำ เกิดที่บ้านเดื่องก ต.ขัวมุง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ลักษณะเด่นของอ้ายอิ่นคำ คือมีลิ้นเป็นปาน (ลิ้นก่าน) คนสมัยนั้นถือว่าจะเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ในวันข้างหน้า ตอนเป็นเด็กมีจิตใจห้าวหาญ ดุดัน ชอบงานช่าง ตามแบบฉบับคนยุคนั้น บวชเป็นเณรอายุ11ปี ที่วัดเดื่องก จากนั้นท่านใฝ่รู้วิชาการช่าง และปฎิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ท่านเริ่มฉันมื้อเดียว ศึกษาพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จากอาจารย์หลายสำนักที่มีชื่อเสียง จนกระทั้งมาฝากตัวเป็นศิษย์พระเถระเฒ่าชาวยอง นามครูบาอริยะ แห่งสำนักประตูป่า พออายุครบบวชจึงกลับไปบวชที่วัดเดื่องก เมื่อ พ.ศ 2438 ได้รับฉายา ธรรมชโยภิกขุ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวบ้านจึงเรียกนามท่านคือ ครูบาธรรมชัย และกลับมาอยู่วัดประตูป่าอีกครั้ง ได้ 2 พรรษา ครูบาอริยะได้ละสังขาร พ.ศ 2440ท่านจึงขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประตูป่าสืบมา ช่วงออกพรรษา ครูบาจะออกธุดงค์ ไปที่ต่างๆตามภาคเหนือ ภาคกลาง และฝั่งพม่า ลาว เพื่อศึกษาธรรมกรรมฐานกับอาจารย์เก่งๆทั้งหลาย ท่านผ่านการอาบน้ำว่าน(อาบขาง) และบารมีธรรมท่านสูงส่งนัก ทำให้มีความอยู่ยงคงกระพัน ศาสตร์ตราวุธทุกชนิดไม่สามารถละคายผิวท่านได้ ชื่อเสียงเกียติคุณท่านเป็นที่เกรงขามในยุคนั้น จนไปถึงพระกรรณ(หู)เจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงจึงอุปฐาณท่านขึ้นเป็นอาจารย์องค์หนึ่งที่เจ้าหลวงนับถือสูงสุด เจ้าหลวงได้สร้างกุฎิไม้สักถวายท่าน หนึ่งหลังใหญ่โตสมฐานะ ยอดเกจิในยุคนั้น และจะนิมนต์ท่านไปบุรณะวัดพระธาตุหริภูญชัยเป็นประจำ รวมทั้งถาวรวัตถุภายในวัดประตูป่าส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือท่าน ทั้งสร้างใหม่และบุรณะของเดิม ส่วนมากท่านจะทำเอง(สล่าเก๊า)
สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีหลายแบบ ทั้งยันต์ ตระกรุต พระเครื่องสะกุลลำพูน เช่นพระรอด พระเลี่ยง(พระเลี่ยม) พระคง พระบาง พระเก้า และพระพิมพ์ครูบาหลังย่น พิมพ์นี้ครูบาได้นำเถ้าอังคารของครูบาศรีวิชัยมาเป็นมาลสาร หลังจากพระราชทานเพลิงครูบาศรีวิชัยแล้วเสร็จ ส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์ครบสูตร แต่ของท่านจะเด่นด้านข่ามคง แต่ที่ขึ้นชื่อโด่งดังคงเป็นตระกรุตยันต์หนังควาย (ยันต์หนังตายขำ) พุทธคุณตำหรับท่านมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ คนในพื้นที่หวงมาก หายากยิ่งกว่า งมเข็ม
และยังมีตำนานเสือโคร่งให้เล่าขาน สืบสานบารมีธรรม จากรุ่นสู่รุ่นอีกมากมายที่ยังกล่าวไม่หมด ฯลฯ

เหรียญรุ่นแรกครูบาติ๊บ อุปาลี วัดหัวฝาย ปี 2511 บล็อกนิยมครูบาติ๊บ อุบาลี อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวฝาย สุโขทัยอาจารย์ติ๊บ อุบา...
22/07/2023

เหรียญรุ่นแรกครูบาติ๊บ อุปาลี วัดหัวฝาย ปี 2511 บล็อกนิยม

ครูบาติ๊บ อุบาลี อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวฝาย สุโขทัย
อาจารย์ติ๊บ อุบาลี เป็นคำที่ชาวบ้านตลอดทั้งศิษยานุศิษย์เรียกกัน ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่ง ที่ได้พบเห็นมา ท่านเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ ที่แท้จริง ท่านไม่มีความทะเยอทะยานในเรื่องลาภ ยศ สรรเสริญใดๆ ทั้งสิ้น เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างมาก เปรี่ยมด้วยเมตตาบารมี ศิษย์ในสายครูบาเจ้าครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี
พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี นามเดิมติ๊บ นามสกุล มณีอุด นามฉายา อุบาลี เกิด พ.ศ.๒๔๔๐ ณ บ้านผาปัง ตำบลผาปัง อำเภอเถิน (ขณะนี้เป็นอำเภอแม่พริก) จังหวัดลำปาง บิดาชื่อปั๋น มารดาชื่อหน่อแก้ว มณีอุด มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๕ คน เป็นหญิง ๒ ชาย ๓ คือ
๑.นางจันทร์
๒.นางดิบ อุประวรรณา
๓.นายยา มณีอุด
๔. พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี
๕.นายใจมา มณีอุด
บิดา มารดาของพระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี ได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่ท่านอายุยังไม่ถึง ๑๐ ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับนางดิบ ผู้เป็นพี่สาว นับว่าท่านเป็น กำพร้าตั้งแต่เยาว์วัย ท่านเป็นคนว่านอนสอนง่ายไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใครเป็นเกรงใจคนอื่นและเป็น คนเสงี่ยมเจียมตนเสมอ พอ อายุ ย่าง ๑๔ ปี พี่ก็นำไปฝากให้เป็นศิษย์วัด เพื่อเรียนหนังสือแบบล้านนา ณ วัดบ้านผาปังหลวง ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้าน พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี ท่านเป็นคนมีเมตตามาตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยเมื่อท่านเป็นศิษย์วัด ได้มีศิษย์วัดด้วยกันชวนท่านไปจับนกตะขาบโดยใช้กับดัก ท่านก็ไปด้วยความ ไม่อยากจะขัดใจเพื่อน ท่านก็ไปเมื่อจับนกตะขาบได้เพื่อนๆ ก็ให้ท่านเป็นผู้ถือเพราะท่านไม่ค่อยจะร่วมทำกิจกรรมอื่นๆ เมื่อท่านถือนก ก็เกิดความสงสารจึงแอบปล่อยนกไปหมด แล้วบอกเพื่อนๆ ว่านกหลุดมือไป เพื่อนๆ ชวนท่านไปจับปลาท่านก็แอบปล่อย จนเพื่อนๆไม่ชวนท่าน ไปอีกเลย ต่อมาเมื่อท่านเรียนสวดมนต์ได้คล่องแล้วก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัด บ้านผาปังหลวงนั่นเอง โดยมีพระคำมูลเป็นเจ้าอาวาส พอวันแรกที่ท่านเป็น สามเณรท่านก็เริ่มฉันอาหารมื้อเดียว ไม่นานท่านก็ได้ไปเรียนหนังสือไทยภาคกลางและเรียนนักธรรมที่วัดท่านางอำเภอ เถิน ตามประเพณีท้องถิ่นของอำเภอเถินพอมีสามเณรมาเรียนนักธรรมจะมีพ่อแม่อุปถัมภ์ (เรียกว่าพ่อออกแม่ออก)จะนำอาหารมาส่งให้ทั้งตอน เช้าและตอนกลางวันสามเณรรูปอื่นเขามีโยมอุปถากกันหมด พระอาจารย์ติ๊บมีพ่อแม่อุปถัมภ์ช้ากว่าเขาเนื่องจาก บุคลิกที่ไม่ค่อยพูดประกอบกับหน้าตาไม่ หล่อเหลาเหมือนคนอื่นเขาในที่สุดท่านก็ได้พ่อหนานป้อง แม่มา (ไม่ทราบนามสกุล)เป็นผู้อุปถัมภ์ มีเรื่องเล่าว่าพ่อหนานป้อง แม่มา เกิดความ-สงสัยว่า อาหารมื้อกลางวันที่ส่งให้พระอาจารย์ติ๊บ ไม่พร่องเลยคล้ายกับไม่ฉันหลายวันติดต่อกัน พ่อหนานป้องจึงถามดู ด้ความว่าพระอาจารย์ติ๊บ ฉันอาหารมื้อเดียว และเลือกแต่อาหารผักเท่านั้น เกิดความปลื้มปิติยินดีแก่พ่อแม่อุปถัมภ์เป็นอย่างมากถึงกับเที่ยวอวดใครต่อ ใครว่าสามเณร เหลือเดนที่พ่อหนานป้องรับอุปถาก นั้นเป็นเพชรในตม ที่คนอื่นมองไม่เห็น พ่อหนานป้องแม่มาจึงภูมิใจและเพิ่มความเอาใจใส่มากยิ่งขึ้น เป็น พิเศษ พออยู่มา ๒ ปี ท่านก็เริ่มฉันอาหารเจ และออกปฏิบัติธรรมในที่ต่างๆ นับว่าท่านสร้างสมบารมีมามากท่านจึงทำได้ถึงเพียงนี้เพราะสมัยนั้นท่านไม่มี แบบอย่างที่ไหนมาก่อนเลย
พออายุครบ๒๑ปี ท่านก็อุปสมบท ณ วัดผาปังหลวง พอจำพรรษาอยู่ที่วัดผาปังหลวงได้ไม่นาน ท่านก็เดินทางไปเรียนมูลกัจจาย์สามัญญภิธาน-สนธิ กับครูบาหมีที่วัดเมืองหม้อ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ อยู่หลายพรรษาจนจบแล้วสามารถแปลบาลีได้ ครูบาติ๊บท่านมีความศรัทธาครูบาศรีวิไชยเพราะได้ยินกิตติศัพท์ของครูบาศรีวิ ไชย ท่านจึงจาริกติดตามครูบาเจ้าศรีวิชัยและอยู่ปรนนิบัติรับใช้ครูบาศรีวิไชย ตลอดมา และครูบาศรีวิไชยคงจะทราบด้วยญาณว่าครูบาติ๊บเป็นพระระดับไหน จึงทำให้ครูบาถึงกับเอ่ยว่า ครูบาติ๊บจะเสมอท่านแต่ติดตรงที่ ครูบาศรีวิไชยชี้ไปที่ลำตัวครูบาติ๊บที่สักยันต์เต็มตัวไปหมด หลายปี ท่านก็แยกตัวออกมาจาริกไปจำพรรษาอยู่วัดพระนอนม่อนช้าง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ได้ ๕ พรรษา แล้วจึงกลับมาวัดผาปังบ้านเดิม
ปีพ.ศ.๒๔๗๔ ชาวบ้านผาปังประมาณ ๒๐ ครอบครัว ได้พากันอพยพมาอยู่บ้านหัวฝาย ตำบลนาทุ่ง อำเภอสวรรคโลก(สมัยนั้นยังไม่แยกเป็นอำเภอทุ่งเสลี่ยม) จังหวัดสุโขทัย ตามบรรดาชาวบ้านที่อพยบมาก่อนหน้านี้ ๕-๖ ปี ในจำนวนผู้อพยบมีนางดิบพี่สาวของท่านด้วย ท่านก็ได้อพยบมาพร้อม กับพี่สาว มาอยู่บ้านหัวฝายในปัจจุบัน สมัยนั้นบ้านหัวฝายยังเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด ชาวบ้านก็ช่วยกันถางป่าบนเนินเขาเล็กๆใกล้ๆหมู่บ้านเป็นที่ จำวัตรและเป็นที่ปฏิบัติของท่าน จนมาเป็นวัดหัวฝายในปัจจุบัน ท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดหัวฝายเป็นรูปแรก สมัยนั้นในระแวกนี้ไม่มีอุปัชฌาย์กุลบุตร ที่มีความประสงค์จะบรรพชาอุปสมบทต้องไปที่อำเภอสวรรคโลก ระยะทางไกลประกอบอันตรายต่างๆนาๆ เจ้าคุณสังวรสังฆปรินายก ซึ่งเป็นเจ้าคณะ จังหวัดสุโขทัยสมัยแต่งตั้งท่านเป็นอุปัชฌาย์ พอท่านทราบข่าว(ตอนนั้นท่านมีพรรษา ๑๒ พรรษา) ท่านกลัวจะเป็นการผูกมัดด้วยยศตำแหน่งท่านจึงลาสิกขา ๗ วัน โดยนุ่งขาวห่มขาวถือศีลแปดอยู่ในวัด และก็อุปสมบทใหม่ เพื่อให้ พรรษาต่ำลงจนไม่สามารถเป็นอุปัชฌาย์ได้ ท่านเป็นพระที่ไม่ชอบอยู่กับที่ท่านมักจะหาทีสงบอยู่เสมอเช่นในถ้ำเช่นถ้ำ แม่กะสา ถ้ำเชิงผา
และหลายๆที่ ท่านเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านเป็นจำนวนมากสมัยนั้นมีญาติโยมหลายที่ นิมนต์ท่านไปเป็นประธานสร้างวัดทั้งใกล้ทั้งไกลพอที่
จะเรียบเรียงได้มีดังนี้
๑. กุฏิ วิหารวัดสันหล่อ อำเภอแม่ละมาด
๒. เจดีย์ วัดผาปัง อำเภอแม่พริก
๓.เจดีย์ ถ้ำแม่กะสา อำเภอแม่สอด
๔.หอประชุม อุบาลีอุปถัมภ์ โรงเรียนบ้าหัวฝาย
แล้วก็มีวัดที่ญาติโยมนิมนต์ท่านเป็นประธานก่อตั้งวัดมีดังนี้
๑.วัดสังฆทน(แม่ทุเลา) อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๒.วัดคลองสำราญ อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๓.วัดท่วิเศษ อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๔.วัดเชิงผา อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๕.วัดต้นธงชัย (วัดที่ครูบาขาวปีมรณะภาพ) อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๖.วัดชัยอุดม อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๗.วัดเขาแก้วชัยมงคล อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๘.วัดม่อนศรีสมบุรณาราม อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๙.วัดฝั่งหมิ่น อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๑๐.วัดวังธาร อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๑๑.วัดห้วยขี้นก อำเภอแม่พริก
๑๒.วัดป่าคา อำเภอศรีสัชชนาลัย
สร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังท่านครูบาติ๊บ ท่านได้สร้างเครื่องรางของขลังทุกอย่างไว้แจกจ่ายชาวบ้านเพื่อป้องกัน อันตราย ครั้ง เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2485 ครูบาอายุราวๆ 45 ปี นับได้ว่าเก่งคาถาอาคมมาตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น ตะกรุดชนิดต่างๆ ผ้ายันต์แบบต่างๆ เสื้อยันต์แบบต่างๆ รูปถ่ายขาวดำ เหรียญรุ่น 1 และ รุ่น2 ในปี 2511- 2513 พอมาปี 2514 ก็ไปออกที่วัดผาปังกลางอีก 1 รุ่น คราวบูรณะวัดผาปังกลาง วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมาย ดีเด่นทางแคล้วคลาดมหาอุด จนหนังสือข่าวสดนำไปลงว่าเหรียญครูบาติ๊บอุดลูกปืนครูบาติ๊บที่สุโขทัยย่องให้ท่านเป็น 1 ใน 15 บูรพาจารย์ของจังหวัดสุโขทัย ครับ
เหรียญรุ่นแรกของท่านจัดสร้างขึ้นในปี 2511 ด้านหน้าเป็นรูปขององค์ท่านครูบาด้านหลังเป็นยันต์นะฉัพพัณรังสีหน้าทอง
กะระณียะเมตตา นารี สุขุมารา ชาโน โจรัง ไมยถีจิตตัง อนุกัมปัง อุปปาธายะ (คาถาหลังเหรียญครูบาติ๊ป)
เป็นยันต์ที่ท่านย่อลงมา เพื่อให้พอกับพื้นที่หลังเหรียญ ซึ่งคาถาบทนี้ บทเต็มท่านเรียกว่า คาถา นะฉัพพัณรังสี เมตตาดี
คัดย่อมาจาก
นะสุวัณโณนะมัสสิต์วา โมกาโรมะณีโชตะกัง พุทกาโรสังขะเมวะจะ ทากาโรสุริยังเอวะ ยะกาโรมุกขะเมวะจะ สะทะมะมัง มังมะทะสะกะระณียะเมตตังสัตตา เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จิตตัง ๆ เชยยะนารี จักกะวัตติราชา มะโนโจรัง ไมตรี จิตตัง ฯ
นะฉัพพัณรังสีหน้าทองนี้ ใช้ลงผงหรือจะลงใส่ฝ่ามือก็ได้แล้วให้เอาผงทาหน้าไปเป็นเมตตามหานิยมประเสริฐยิ่งนัก แก้วหาค่ามิได้เลยนะอันเป็นฉบับวัดประดู่โรงธรรมอยุธยา สืบมาแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ต้นฉบับมาจากท่านยวัดมะขามเฒ่าฉบับหนึ่ง จากต้นฉบับของสมเด็จกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (พระบัณฑูร) อีกฉบับหนึ่ง สอบทานตรงกันแล ฯ
เหรียญรุ่นแรกจัดสร้างน้อนยมากเป็นเหรียญยอดนิยม หายากของสุโขทัย

สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ไชยวงษ์ รุ่นแรก ครูบาชัยวงศ์ ปี 27 เนื้อนวะ ชุดกรรมการ​ หมายเลขปลุกเสกพิธีตานใช้ตานแทนปี 1 มกราคม 25...
22/07/2023

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ไชยวงษ์ รุ่นแรก ครูบาชัยวงศ์ ปี 27 เนื้อนวะ ชุดกรรมการ​ หมายเลข

ปลุกเสกพิธีตานใช้ตานแทนปี 1 มกราคม 2527 สุดยอดชนวนมวลสารเเละคณาจารย์ร่วมปลุกเสกหลายองค์ มาพร้อมเดิมๆน่าบูชามากครับ

สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

ที่อยู่

ตลาดทิพย์เนตร ซอย 6
Chiang Mai
50100

เบอร์โทรศัพท์

+66861936900

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ร้านศิวิไลพระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง amulet By ดอย ศิวิไลผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ร้านศิวิไลพระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง amulet By ดอย ศิวิไล:

แชร์