15/10/2023
คลิปที่แชร์ ด้านล่างนี้
ผู้ทำคลิป มีจุดประสงค์ เพื่อแบ่งปันจิตยาสายดาร์ก เพื่อให้คนระมัดระวังตัว
ดิฉัน🧝 จึงขอแบ่งปันความคิดเห็น
เพื่อป้องกันคนใช้จิตวิทยาสายดาร์ก (เช่นกัน) ' ขอเจือกบ้าง! '😃
ต่อไปนี้นะคะ
📌ขอแนะนำ ให้ฟังคลิปก่อนให้จบ ก่อนที่จะอ่าน ความเห็นส่วนตัวของดิฉัน ต่อไปนี้นาฮ๊ะ!
จุดประสงค์โพสนี้ : เพื่อแชร์การป้องกันคนใช้จิตวิทยาสายดาร์ค เท่านั้น
มิได้มี เพื่อลดความน่าเชื่อถือของผู้ใดหรือ ต่อว่าจิตวิทยาสายดาร์คใดๆ ทั้งสิ้น
จากคลิป
ข้อที่ 1 จิตวิทยาสายดาร์ค
การสร้างภาพลวงตา ว่าได้ความสำเร็จมาได้ง่ายๆ (อย่าเปิดเผยขั้นตอนการได้ความสำเร็จ ที่มาด้วยความเหนื่อยยาก)
🐣คหสต (ความเห็นส่วนตัว)
ข้อนี้ : สามารถใช้เพื่อเป็นประโยชน์ป้องกันมิจฉาชีพ ที่มาล่อลวงให้ลงทุนได้
แนะนำ คือ
"การเปรียบเทียบ กับ ความปกติ /หรือความเป็นจริง ที่เป็นอยู่ "
เช่น มีคนมาแนะนำการลงทุนว่าจะให้ผลตอบแทน 10% ต่อเดือน
เราก็ต้องนำข้อมูลมาเทียบกับ ความปกติ ของการลงทุนที่เป็นอยู่
เช่น อัตราผลตอบแทน (%) ของการลงทุน ต่อปี (ของนักลงทุนเก่งๆระดับโลก ) ว่าได้เท่าไหร่?
Warrent buffet ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย ปีละ 20% (ต่อปี นะจ๊ะแม่คุณ!!)
อ้างอิงจาก นักจิตนักจิตวิทยาท่านหนึ่งได้คำถามว่า
"ทำยังไงถึงจะรู้ว่าใครที่จริงใจ
และใครที่โกหก? "
เขาได้ให้คำแนะนำสั้นๆว่า
คุณจะต้องเป็นคนที่จริงใจ และไม่โกหกก่อน
Cr. คุณโอ๊ต นักจิตวิทยา
หลักการเดียวกัน คือ เมื่อคุณเป็นฝ่ายที่จริงใจและไม่โกหก .ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามา ในรูปแบบที่ "โกหก"
=> คุณก็จะสามารถ "เปรียบเทียบ" กับ"ความปกติ" ได้ง่ายๆ
และทำให้คุณมองเห็น "ความผิดปกติ" ได้ง่ายๆ ..เช่นกัน
ข้อ1 (ย่อย) จากคลิป
คนประสบความสำเร็จไม่ควรเปิดเผยวิธีขั้นตอน ความสำเร็จให้คนอื่นได้รับรู้
🐣คหสต :
เรามองว่าข้อนี้มันเป็นเรื่องของการตลาด
ยกตัวอย่าง เรียนคอร์สหนึ่ง
หน้าเพจ อาจารย์เขาสอนฟรีในความรู้พื้นๆ เบื้อต้น แบบไม่เจาะลึก เท่านั้น
ส่วนความรู้ลึกๆ ก็จำเป็นที่จะต้อง
เปิดสอนในคอร์ส (เพื่อสร้างรายได้)
(อาจารย์เค้า ก็ต้องอยู่ ต้องกิน ต้องใช้เงิน เหมือนกัน เนอะ พวกแกร!! 🤣)
หรือที่เขาบอกว่า ทำยังไงเพื่อนำความรู้ที่มี มาสร้างรายได้ !!!!
การไม่เปิดเผยขั้นตอนความสำเร็จ มันเป็นสิ่งจำเป็นค่ะ (มัน ไม่ใช่กลโกงแต่อย่างใด)
.......
ข้อ 2 จากคลิป
ทำตัวห่างหายไปเสียบ้าง เพื่อให้คนมองเห็นคุณค่าของเรา
แนวคิด ข้อนี้เรามองว่า มันมีจุดประสงค์ที่ต่างกัน
🐣คหสต
การที่เราห่างหายไป จากสังคม
หรือไม่เสนอหน้าไปทุกๆงาน
นั่นหมายความว่า
เรา'โฟกัส' ในความต้องการของตัวเอง มากกว่า สังคม
เราเลือก ที่จะให้ความสำคัญกับ ตัวเองมากกว่า
หรือพูดง่ายๆว่า
"เรามองถึงความต้องการ และให้ความสำคัญ ให้คุณค่า ต่อชีวิต ต่อเป้าหมายของเรา มากกว่า คนอื่น!!!"
ไม่ได้สอนให้ "เห็นแก่ตัว"
แต่สอนให้ "โฟกัสที่ตัวเอง"ก่อนเสมอ
เห็นแก่ตัวเองก่อน ให้คุณค่าตัวเองก่อนแคร์ตัวเองก่อน ไม่ได้หมายความว่า "เราทำร้ายผู้อื่น"..
Cr. ครูพอลล่า นักจิตวิทยา
สรุป
จะเห็นได้ว่า
จุดประสงค์ของเรา คือ "เพื่อตัวเอง"
📌ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่น "เห็นคุณค่า" หรือ "ด้อยคุณค่า" ของเรา
ข้อ 3 จากคลิปจิตวิทยาสายดาร์ค
คนเราจะไม่ชอบความ perfect ของคนอื่น ดังนั้น จงแสดงความผิดพลาด หรือจุดด้อย ของตัวเอง ให้คนอื่นเห็นบ้าง
🐣แนวคิดนี้ เรามีความเห็นต่าง
เรา"ไม่จำเป็น" ต้องพยายาม ที่จะแสดงจุดด้อย / จุดอ่อน
รวมไปถึง ต้องเก็บความสามารถของตัวเองไว้
เพียงแค่ว่า...
"กลัวคนอื่นจะคิดอิจฉา หรือไม่ชอบเรา"
เราควรจะมีชีวิต ในแบบที่เราเป็น
โฟกัส จุดประสงค์และเป้าหมายเป็นหลัก
ว่าชีวิตของเรามีความสามารถ ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองได้บ้าง
และมากพอ ที่จะสามารถแบ่งปันเผื่อแผ่ต่อสังคมได้อีกไหม?
แค่นั้น!!!!! (อย่าไปคิดเยอะ)
ก็จริง ที่ชีวิตคนเรา ย่อมจะมี 'จุดอ่อน' "จุดแย่" "ความห่วย"
Cr. พระคัมภีร์ไบเบิลก็บอก
คนเรามีความบาป (หรือความไม่สมบูรณ์) มันคือ ธรรมชาติของมนุษย์
ตั้งแต่สมัยพระเจ้าสร้างโลก
และมนุษย์คู่แรก คือ อดัมและเอวา
นั่นหมายความว่า
เราจะแสดงออก ถึงความห่วว หรือไม่?
ก็ให้มันเป็น "เรื่องธรรมชาติ" => จะดีกว่า ✅
เฉกเช่นเดียวกับเรา
เรามีความเก่งด้านใด
เราอาจจะ แสดงออกมาให้คนอื่นเห็น
หรือไม่เห็น ?
ก็ให้มันเป็น "เรื่องธรรมชาติ" จะดีกว่า✅
📌"ให้โฟกัส การทำประโยชน์ต่อตัวเองและแบ่งปันให้สังคมบ้างงงง "
That's it!😆
ข้อที่ 4
อย่าพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงแนวคิดเดิมๆ มากเกินไป
แต่ให้พยายาม "แทรกซึม"เพื่อที่จะเปลี่ยนสังคม มากกว่า
(เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้าน)
🐣คหสต แนวคิดนี้เป็นการโฟกัสที่สังคมมากเกินไป
เราควรโฟกัสที่ตัวเองว่า เรามีแนวคิดอย่างไร?
หากเรามองว่า มันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคม
เราก็แค่ ..."สื่อประชาสัมพันธ์" ออกไป
เพราะในทาง "ปฏิบัติ" แล้ว
ความสามารถเรา อาจจะเป็นแค่ 'มดตัวนึง' เท่านั้น
และมดอย่างเรา มีหน้าที่หาอาหารเพื่อตัวเองเป็นหลักซะด้วยสิ!!
การเปลี่ยนแปลงของสังคม เป็นเรื่องใหญ่มาก
เราไม่จำเป็น ที่จะต้องพยายาม"แทรกซึม" และพยาม "เปลี่ยนแปลง"แนวคิดใดๆ ทั้งสิ้น
หากสังคมที่เราอยู่ " จะเปลี่ยนแปลง" ได้
นั่นก็เพราะ "สังคมส่วนใหญ่"เขาอยากเปลี่ยน
(ถึงเวลา..ที่จะเปลี่ยน ..ทั้งมวลชน)
หรือ เขามี ความคิด เหมือนกันกับเรา อยู่แล้ว
สรุป
เรามีหน้าที่แค่ "แชร์ "!!
Just share it !!
ข้อที่ 5
พยายามทำให้ผู้อื่นโกรธ และให้เราอยู่ในสถานะนิ่ง แล้ว เราจะเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า
🐣แนวคิดนี้
เรามองว่า มันเป็นเรื่อง "เสียเวลา"
ที่จะต้องไป "สู้รบปรบมือ"กับใคร
การที่เราจะทำให้คนคนหนึ่งโกรธ
และเราเป็นฝ่ายนิ่ง
แล้วเราจะได้เป็นฝ่ายที่ "เหนือกว่า"
นั่นหมายความว่า
เราจะต้องหา"ข้อมูล" ให้มากพอ
ว่าอะไร ที่เป็น"จุดอ่อน"
ว่าอะไร ที่ทำให้เขา "โกรธ"
เราจะต้องทุ่มเท เพื่อ "โฟกัสชีวิตของคนๆนั้น" เพื่อที่เรา จะเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า คนๆนั้น
Oh my God!!!
อย่าปล่อยให้ เราว่าง ที่จะทำแบบนั้นเลย 😅
จะเห็นว่ามันเรื่องยาก และเสียเวลา
เทียบง่ายๆก็คือ ชีวิตมนุษย์คนเรา ก็เหมือน "หมาก" บนกระดาน ตัวหนึ่ง ที่พระเจ้ากำลังเล่นอยู่
การที่ "หมาก"ตัวนึง จะพยายาม "ควบคุม"หมากอีกตัวนึง
=> มันยากมากนะ (ว่ามั้ย?)
เราจึงไม่ควร "เสียเวลา"ทำแบบนั้น เลย!
ไม่สู้ โฟกัสชีวิตตัวเอง (ง่ายกว่าเยอะ)
มองที่เป้าหมาย และพัฒนาตัวเอง
มีแนวคิดด้านบวกให้กับชีวิตตัวเอง
และถ้ามันมากพอ ก็อาจเผื่อแผ่แบ่งปันให้กับสังคม ด้วย
"ง่ายกว่า" และ" ดีกว่า"
ที่จะไป "เสียเวลา" กับชีวิตคนอื่น เย๊อะ!!!!
อย่าใช้สายดาร์ค เพื่อดันชีวิตตัวเองให้สูงขึ้น ด้วยการเหยียบผู้อื่น
เป็นพอ!!
สรุป
แนวคิดจิตวิทยาสายดาร์ค 5 ข้อนี้
จะไม่มีผลอะไร กับเราเลย
ถ้าเรา "โฟกัสที่ชีวิตตัวเอง" พัฒนาตัวเอง มีแนวคิดในด้านบวกต่อตัวเอง
และถ้ามันมากพอ ก็แบ่งปันต่อสังคม
ขอบคุณ สำหรับข้อจิตวิทยาสายดาร์กเพื่อระมัดระวังตัว จากคลิปนี้
ดิฉันก็อยากเป็นส่วนหนึ่ง
ที่จะเสนอแนะแบ่งปัน วิธีจิตวิทยาสายบวก++++ (ที่ได้เรียนมา จากโลกออนไลน์ เช่นกัน) มาแบ่งปันต่อผู้คน
"ดาร์กยังไง ก็ไม่สู้
ที่เราโฟกัสตัวเอง /ให้พลังบวกกับตัวเอง "
แน่นอน ที่สุด ค่ะ!!!😃
#จิตวิทยา #แนวคิด
กดเข้ากลุ่มฟรี! เก่งขึ้นวันละ 1%!https://www.facebook.com/groups/350505719845935แจกฟรี! อีบุ๊ก 18 ความลับ!เปลี่ยนคุณให้เป็นคนเจ้าเสน่ห์ [ทำยั....